5

วิธีดูแลเล็บให้แข็งแรงและสุขภาพดี

การมีเล็บที่แข็งแรงและสุขภาพดีไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความงามให้กับมือของคุณ แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่ดีด้วย บทความนี้จะนำเสนอวิธีดูแลเล็บให้แข็งแรงและสุขภาพดีที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

วิธีดูแลเล็บให้แข็งแรงและสุขภาพดี

1. การรักษาความสะอาดของเล็บ

  • ล้างมือและเล็บบ่อยๆ
    การรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ควรล้างมือและเล็บด้วยสบู่อ่อนและน้ำอุ่นเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา
  • ใช้แปรงขัดเล็บ
    ใช้แปรงขัดเล็บทำความสะอาดใต้เล็บเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจติดอยู่ แต่ควรระวังไม่ขัดแรงเกินไปเพราะอาจทำให้เล็บและเนื้อบริเวณใต้เล็บเสียหาย

2. การบำรุงเล็บ

  • ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์
    เล็บต้องการความชุ่มชื้นเช่นเดียวกับผิว ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีหรือเชียร์บัตเตอร์ทาเล็บและบริเวณรอบๆ เล็บเป็นประจำ เพื่อป้องกันเล็บแห้งและแตกหัก
  • น้ำมันบำรุงเล็บ
    น้ำมันบำรุงเล็บ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันโจโจบา ช่วยให้เล็บและผิวรอบๆ เล็บนุ่มขึ้น และลดปัญหาเล็บเปราะบาง

3. การดูแลเล็บจากภายใน

  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
    การรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี ธาตุเหล็ก และโปรตีน ช่วยเสริมสร้างเล็บให้แข็งแรง อาหารที่ควรรับประทานได้แก่ ไข่ ถั่วต่างๆ ผักใบเขียว และปลา
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    การดื่มน้ำเพียงพอช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเล็บและผิวหนัง การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้เล็บไม่แห้งแตก

4. การป้องกันการบาดเจ็บและการเสื่อมสภาพของเล็บ

  • สวมถุงมือเมื่อทำงานบ้าน
    การสัมผัสกับสารเคมีเช่นน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาดบ้าน อาจทำให้เล็บแห้งและเปราะ ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันเล็บจากสารเคมีเหล่านี้
  • หลีกเลี่ยงการกัดเล็บ
    การกัดเล็บไม่เพียงแต่ทำให้เล็บเสียรูปทรง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรหาวิธีการลดความเครียดหรือการเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อมีความต้องการกัดเล็บ

5. การตัดและตะไบเล็บอย่างถูกวิธี

  • ตัดเล็บอย่างถูกวิธี
    ควรตัดเล็บให้ตรงเพื่อป้องกันการเกิดเล็บขบ และไม่ควรตัดเล็บสั้นเกินไป เพราะอาจทำให้เล็บเจ็บหรือเกิดการติดเชื้อได้
  • ใช้ตะไบเล็บอย่างถูกวิธี
    ใช้ตะไบเล็บให้เป็นทิศทางเดียวเพื่อป้องกันการแยกของเล็บ ไม่ควรใช้ตะไบเล็บแบบหยาบเกินไป เพราะอาจทำให้เล็บเปราะ

6. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย

  • ใช้ยาทาเล็บที่ปลอดสารพิษ
    • ควรเลือกใช้ยาทาเล็บที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน และดีบีพี (DBP) ซึ่งอาจทำให้เล็บอ่อนแอและเกิดการระคายเคือง
  • พักเล็บจากการทาเล็บ
    • ควรพักเล็บจากการทาเล็บหรือการใช้เล็บปลอมอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อให้เล็บมีโอกาสฟื้นฟูและหายใจ

สรุป

การดูแลเล็บให้แข็งแรงและสุขภาพดีไม่ยากเกินไปหากเรารักษาความสะอาด บำรุงเล็บอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และป้องกันการบาดเจ็บหรือการเสื่อมสภาพของเล็บ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะมีเล็บที่สวยงาม แข็งแรง และสุขภาพดีตลอดเวลา

คำถามที่พบบ่อย

เล็บแห้งและเปราะควรทำอย่างไร?

การที่เล็บแห้งและเปราะอาจเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินอีหรือเชียร์บัตเตอร์ทาเล็บและบริเวณรอบๆ เล็บเป็นประจำ นอกจากนี้การใช้น้ำมันบำรุงเล็บ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันโจโจบา ก็สามารถช่วยให้เล็บนุ่มขึ้นและลดปัญหาเล็บเปราะได้

การตัดเล็บอย่างถูกวิธีควรทำอย่างไร?

ควรตัดเล็บให้ตรงเพื่อป้องกันการเกิดเล็บขบ และไม่ควรตัดเล็บสั้นเกินไป เพราะอาจทำให้เล็บเจ็บหรือเกิดการติดเชื้อได้ การใช้ตะไบเล็บควรทำในทิศทางเดียวเพื่อป้องกันการแยกของเล็บ และควรใช้ตะไบเล็บที่ไม่หยาบเกินไปเพื่อป้องกันเล็บเปราะ

ควรหลีกเลี่ยงอะไรเพื่อรักษาเล็บให้แข็งแรง?

ควรหลีกเลี่ยงการกัดเล็บ เพราะอาจทำให้เล็บเสียรูปทรงและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ควรสวมถุงมือเมื่อทำงานบ้านที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีเช่นน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาด และควรเลือกใช้ยาทาเล็บที่ปลอดสารเคมีอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน และดีบีพี (DBP) เพื่อป้องกันเล็บอ่อนแอและเกิดการระคายเคือง

Book an Appointment
Choose services:
Choose a Specialist:
Choose Date and Time:
Confirnation:
Total: $